Skip to main content
HealthyGamer : รวมทุกทางออกของปัญหาติดเกม logo HealthyGamer : รวมทุกทางออกของปัญหาติดเกม
  • ล็อกอิน
    • ลืมรหัสผ่าน
  • สมัครสมาชิก

Text size

  • Small
  • Normal
  • Big
  • หน้าแรก
  • ติดเกมคืออะไร
  • แบบทดสอบ
  • ชวนคิดชวนอ่าน
    • ข่าวสาร
    • เรื่องเด่น
    • เลี้ยงลูกถูกวิธี
    • เกร็ดน่ารู้
    • มุมกิจกรรม
    • โพล
  • ดาวน์โหลด
    • งานวิจัย
    • บทความวิชาการ
    • Multimedia
    • E-book
  • เว็บบอร์ด
  • เกี่ยวกับเรา
    • รู้จักเรา
    • ติดต่อเรา
Home » ชวนคิดชวนอ่าน » ข่าว » 17 สัญญาณอันตราย ถึงเวลาต้องวางสมาร์ทโฟนเสียที
พ.ย.4

17 สัญญาณอันตราย ถึงเวลาต้องวางสมาร์ทโฟนเสียที

17 สัญญาณอันตราย ถึงเวลาต้องวางสมาร์ทโฟนเสียที
          ปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนแทบจะกลายเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะเห็นแต่ผู้คนก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองกันไปหมด ซึ่งที่จริงแล้วการเล่นสมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียทั้งระยสั้นและระยะยาว และยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซต์ huffingtonpost.com เกี่ยวกับ 17 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณควรจะวางสมาร์ทโฟนลงซะที มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
 
          คุณเป็นคนหนึ่งที่ติดสมาร์ทโฟนหรือเปล่า? ถ้าหากเพียงแค่คุณคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตโดยขาดการติดต่อกับโลกออนไลน์แล้วรู้สึกแย่ล่ะก็ นั่นแปลว่าคุณติดสมาร์ทโฟนอย่างไม่ต้องสงสัย จากการวิจัยพบว่าคนเราใช้เวลาอย่างต่ำ 4 ชั่วโมงต่อวันในการอยู่กับมัน ซึ่งผลจากการใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดอาการหลาย ๆ อย่างขึ้น เช่น อาการตาเบลอ ปวดหัว หรือมีนิสัยบางอย่างเปลี่ยนไป ซึ่งนั่นล่ะคือสัญญาณเตือนว่าคุณควรจะวางสมาร์ทโฟนลงซะก่อนที่มันจะกลายเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เราไปดูกันดีกว่าว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่กำลังเตือนให้คุณเลิกใช้สมาร์ทโฟนซะ
 
          1. สายตาของคุณเริ่มเบลอ
 
          การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการสายตาเบลอ จากการศึกษาในปี 2011 พบว่า มากกว่า 90% ของคนที่จ้องหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมากกว่า 2 ชั่วโมงจะเกิดปัญหาปัญหาสายตาอย่างเช่น สายตาเบลอ และอาการตาแห้ง 
 
          2. เกิดอาการหวั่นวิตกเมื่อหาโทรศัพท์ไม่เจอ
 
          ถ้าคุณเคยรู้สึกลนลานและตกใจมากเวลาที่หาโทรศัพท์ไม่เจอ โดยแท้ที่จริงแล้วคุณอาจจะวางไว้ผิดที่ หรือไม่ก็ลืมนำมันติดตัวมาด้วยล่ะก็ นั่นแปลว่าคุณกำลังติดโทรศัพท์ขั้นหนักและควรจะเลิกเล่นมันเสียบ้าง การศึกษาในปี 2012 พบว่าผู้คนจำนวนกว่า 73% รู้สึกตื่นตระหนกราวกับดูหนังสยองขวัญเมื่อหาโทรศัพท์ไม่พบ
 
          3. ปวดหัวตุ๊บ ๆ
 
          การจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนนาน ๆ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหากับสายตาแล้ว ยังเป็นสาเหตุทำให้ปวดหัวและเกิดอาการอ่อนเพลียอีกด้วย นอกจากนี้การใช้จ้องหน้าจอนาน ๆ ทำให้มีผลกระทบต่อสมอง โดยการศึกษาครั้งหนึ่งค้นพบว่ าสมาร์ทโฟนเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะสมองเสื่อม ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้ของสมองและความทรงจำระยะสั้นอีกด้วย
 
          4. คุณทำงานเกินเวลา
 
          ถ้าเกิดว่าคุณพบว่าตัวเองนั้นเช็คอีเมล ถ้าคุณชอบเช็กอีเมลในช่วงมื้อเย็นหรือในงานเลี้ยงต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาเป็นเวลาบ่อยครั้ง นั่นแปลว่าคุณกำลังติดสมาร์ทโฟนแล้วล่ะ ในการวิจัยปี 2012 พบว่า เกือบ 80% ของคนที่ทำการสำรวจนั้นยอมรับว่า ได้ทำงานเกินเวลาโดยไม่รู้ตัวจากการเพียงแค่เช็กอีเมล หรือแค่เพียงส่งข้อความสั้น ๆ ที่เกี่ยวกับงาน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้กินเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เทียบเท่ากับการทำงานหนึ่งวันเลยทีเดียว
 
          5. นอนไม่เต็มอิ่ม
 
          การวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างหมอนคือสาเหตุที่ทำให้คุณนอนหลับได้ไม่เต็มอิ่ม เพราะมันจะไปรบกวนการนอนของคุณ ทำให้นอนไม่เต็มอิ่ม จากการศึกษาเผยว่า การใช้เวลากับสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานก่อนนอนจะทำให้นอนหลับยากและยังทำให้ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ตลอดเวลา นี่ยังไม่นับรวมกับการที่คุณจะต้องเช็กการแจ้งเตือนทุกครั้งก่อนหลับตานอน ที่จะทำให้การนอนของคุณไม่ต่อเนื่องอีกด้วย ทางที่ดีที่สุดคือควรจะปิดโทรศัพท์และวางมันให้ห่างตัวก่อนนอนทุกครั้ง
 
          6. รู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นอยู่ตลอดเวลา
 
          ถ้าคุณรู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นแต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกลับไม่มีอะไรอยู่บ่อย ๆ นั่นแปลว่าคุณควรจะพึ่งการรักษาทางการแพทย์แล้วล่ะ ในการศึกษาปี 2012 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Computers of Human Behavior นั้นบอกว่า อาการเหล่านั้น คืออาการของโรค Phantom Vibration Syndrome ซึ่งจะเกิดขึ้นในหมู่วัยรุ่นอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าหากอาการหนักขึ้นก็อาจจะเกิดได้บ่อยขึ้น ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณว่าคุณควรจะเลิกเล่นโทรศัพท์เสียที
 
          7. นิ้วมือเริ่มหงิกงอ
 
          การเล่นสมาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน ครั้งละหลาย ๆ ชั่วโมง มีความเสี่ยงทำให้เกิดอาการนิ้วล็อก และตะคริวตามมือและนิ้วมือ คุณควรจะวางโทรศัพท์ลงแล้วยืดเส้นยืนสายบ้างเพื่อความปลอดภัย
 
          8. ติด Hashtag ให้กับคำพูดหรือใช้ภาษาแชทตลอดเวลา
 
          หากคุณเริ่มพูดถึงเรื่องการติด Hashtag และใช้ภาษาแชทตลอดเวลา มันถึงเวลาที่คุณควรจะวางสมาร์ทโฟนลงบ้างได้แล้วล่ะ
 
          ทั้งนี้ อาการนิ้วล็อก เป็นกลุ่มอาการหนึ่งที่เกิดกลุ่มคนที่ใช้มือในการทำงานอย่างหนัก ซึ่งจะพบว่ามีอาการปวดและมีเสียงดังกึก ทำให้เส้นเอ็นไม่โก่งตัวออกเวลางอนิ้ว นอกจากนี้ยังมีอาการอักเสบของเส้นเอ็น ทำให้เส้นเอ็นบวมและหนาตัว ทำให้ลอดผ่านห่วงลำบาก จึงรู้สึกเจ็บและเกิดอาการนิ้วล็อกตามมา
 
          9. ส่งข้อความหาใครบางที่อยู่ใกล้ ๆ แทนการพูดคุย
 
          การส่งข้อความหาคนใกล้ตัวแทนการพูดคุยเป็นสัญญาณของความล้มเหลวทางการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะการที่เราเลือกใช้การพูดคุยผ่านข้อความแทนการพูดคุยกันต่อหน้า ก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแย่ลง รีบวางสมาร์ทโฟนลงก่อนที่จะสูญเสียความสัมพันธ์เหล่านั้นไปเถอะ
 
          10. แม้แต่อาบน้ำก็ยังเอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย
 
          หากคุณนำสมาร์ทโฟนของคุณติดตัวไปด้วยทุกที่แม้กระทั่งห้องน้ำ นั่นแปลว่าคุณกำลังติดสมาร์ทโฟนอย่างหนักและควรวางมันลงเสียที จากการศึกษาซึ่งจัดทำขึ้นโดยหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง LG พบว่ามีถึง 77% ของคนที่ใช้สมาร์ทโฟนที่นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยทุกทีไม่ว่าจะเวลานอนหรือเข้าห้องน้ำก็ตาม
 
          11. สนใจที่จะโพสต์รูปของกินของคุณมากกว่าการกินมันเข้าไป
 
          ปัจจุบันมีคนมากกว่า 5 ล้านคนที่แท็กรูปภาพอาหาร และให้ความสนใจกับการแชร์รูปภาพอาหารของคุณมากกว่าที่จะสนใจคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าซึ่งนั่นเป็นการทำลายความสัมพันธ์วิธีหนึ่ง จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย The University of Essex พบว่า การที่มีโทรศัพท์วางอยู่ให้เห็นในขณะที่กำลังพูดคุยกัน จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสนใจอีกฝ่ายน้อยลง
 
          12. สบตาคนอื่นน้อยลง
 
          เทคโนโลยีเป็นสาเหตุทำให้คนสบตากันน้อยลง จากการศึกษาพบว่าโดยปกติแล้วเมื่อคนพูดคุยกันมักจะเกิดการสบตากันอย่างน้อย 30-60% ของบทสนทนาทั่วไป และสายตาเป็นตัวที่ช่วยในการสื่อสารทางอารมณ์ถึง 60-70% ดังนั้น ถ้าคุณรู้สึกว่าอยากจะจ้องหน้าจอมากกว่าที่จะมองตาคนอื่น นั่นได้เวลาเลิกเล่นโทรศัพท์แล้วล่ะ
 
          13. บ่นทุกอย่างลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
 
          หากคุณพบเจอเรื่องอะไรก็ตามในแต่ละวันและเลือกที่จะแสดงความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วนั้น มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังติดสมาร์ทโฟนอย่างหนัก ซึ่งการแชร์ทความรู้สึกนึกคิดทุกสิ่งทุกอย่างลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นไม่ได้มีผลดีต่อตัวคุณเองเลยแม้แต่น้อย
 
          14. ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
 
          เราคงเคยได้ยินข่าวว่ามีคนประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการที่ก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างใช่ไหมคะ ซึ่งนั่นเกิดจากการที่ติดสมาร์ทโฟนมากเกินไปโดยไม่ได้สนใจรอบข้าง ไม่ใช่เพียงเราจะเดือดร้อนหากเกิดอุบัติเหตุ แต่ครอบครัวและคนรอบข้างเราอาจจะเดือดร้อนตามไปด้วยจากพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบนี้
 
          15. บุคลิกภาพแย่ลง
 
          เมื่อคุณติดสมาร์ทโฟนมาก ๆ จะทำให้คุณเป็นคนไหล่ตก เนื่องจากเวลาที่คุณก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์ ร่างกายของคุณก็จะโน้มตัวไปข้างหน้าอัตโนมัติ หากอยู่ในท่านั้นนาน ๆ และบ่อยครั้งก็จะทำให้กระดูกหลังและคอเปลี่ยนรูป ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้ออักเสบและบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
 
          16. เลิกบันทึกเบอร์โทรศัพท์ลงมือถือ
 
          ยังจำได้หรือไม่ว่าครั้งสุดท้ายที่บันทึกเบอร์โทรศัพท์ลงมือถือนี่มันเมื่อไร แล้วคุณจำได้หรือเปล่าว่าคุณใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาใครสักคนครั้งล่าสุดเมื่อไร หากคุณจำไม่ได้ นั่นแปลว่าคุณเลือกที่จะใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อผ่านทางข้อความมากกว่าใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาใครบางคน
 
          17. เสพติดการเซลฟี่
 
          หลายคนเสพติดการถ่ายรูปตัวเอง หรือที่เรียกว่าเซลฟี่ขนาดหนักจนถึงขนาดต้องถ่ายรูปในแทบจะทุกอิริยาบถ บางรายอาจถึงขั้นโพสต์เป็นคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย โดยผู้คนเหล่านี้อาจจะไม่ได้รู้เลยว่า บางครั้งการโพสต์รูปเซลฟี่ของตัวเองบ่อย ๆ นั้น อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับตัวเองได้
 
          สมาร์ทโฟนเป็นเทคโนโลยีที่ดีและสะดวกสบาย แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะสามารถทำได้หลายอย่าง แต่ก็คงไม่สามารถแทนที่ความรู้สึกนึกคิดใด ๆ ได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้เทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตเรามากเกินไป ควรใช้อย่างพอเหมาะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีนะคะ
 
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ที่มา: 
www.kapook.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 17 สัญญาณอันตราย ถึงเวลาต้องวางสมาร์ทโฟนเสียที
  • การติดเกมคอมพิวเตอร์ของเยาวชนไทย
  • 7 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับดวงตาของเด็กก่อนวัยเรียน ที่เกิดจากหน้าจอแท็บเล็ต
  • Sleep Texting...
  • โครงการคู่มือเสพสื่ออย่างปลอดภัยสไตล์พล่­ากุ้ง "เกม"
  • IT กับสุขภาพ
  • คุณเป็นคนหนึ่งที่ติดสมาร์ทโฟนหรือเปล่า
  • ติดมือถือ
  • ติดสมาร์ทโฟน
  • ติดเกม
  • ติดเกมส์
  • ติดแชท
  • เด็กติดเกมส์
  • โทรศัพท์
  • Login to post comments
  • อ่าน 2533 ครั้ง
  • ข่าวสาร
  • เรื่องเด่น
  • เลี้ยงลูกถูกวิธี
  • เกร็ดน่ารู้
  • มุมกิจกรรม
  • โพล

เรื่องที่มีคนอ่านมากที่สุด

ทำความรู้จักเด็กยุค Generation Alpha
2 เมษายน 2558
43,087
"สังคมก้มหน้า" ต้นเหตุและทางออก
27 กรกฎาคม 2558
18,738
สาเหตุการติดเกม
5 กรกฎาคม 2556
18,367
ภัยร้ายจากอินเทอร์เน็ต
17 กุมภาพันธ์ 2557
17,175
ปัญหาเด็กติดเกม...ส่งผลกระทบต่อตัวเด็กและครอบครัวอย่างไรกัน ?
5 สิงหาคม 2556
14,999
เกมเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก
31 มีนาคม 2555
13,412
  • หน้าแรก
  • ติดเกมคืออะไร
  • แบบทดสอบ
  • ชวนคิดชวนอ่าน
  • ดาวน์โหลด
  • เว็บบอร์ด
  • เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

รศ.นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล
สาขาวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โทร. 0-2419-4080 / โทรสาร 0-2411-3843

ลิขสิทธิ์

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย

Powered by Drupal. Developed by Opendream.
Site design © 2011 Opendream, All rights reserved.

ติดตามความเคลื่อนไหว

  • RSS Feed
  • Twitter
  • Facebook
  • กระทรวงวัฒนธรรม
  • มหาวิทยาลัยมหิดล
  • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)