Skip to main content
HealthyGamer : รวมทุกทางออกของปัญหาติดเกม logo HealthyGamer : รวมทุกทางออกของปัญหาติดเกม
  • ล็อกอิน
    • ลืมรหัสผ่าน
  • สมัครสมาชิก

Text size

  • Small
  • Normal
  • Big
  • หน้าแรก
  • ติดเกมคืออะไร
  • แบบทดสอบ
  • ชวนคิดชวนอ่าน
    • ข่าวสาร
    • เรื่องเด่น
    • เลี้ยงลูกถูกวิธี
    • เกร็ดน่ารู้
    • มุมกิจกรรม
    • โพล
  • ดาวน์โหลด
    • งานวิจัย
    • บทความวิชาการ
    • Multimedia
    • E-book
  • เว็บบอร์ด
  • เกี่ยวกับเรา
    • รู้จักเรา
    • ติดต่อเรา
Home » ชวนคิดชวนอ่าน » ข่าว » ภัยจากFacebook
ก.พ.9

ภัยจากFacebook

ภัยจากFacebook
ถ้าหากพูดถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน "Facebook" ถือว่าเป็นเครือข่ายสังคมบนโลกเสมือนจริงที่มีคนนิยมใช้มากเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวการ การอัพเดทสถานะปัจจุบัน และการบอกเล่าเรื่องราวของเราให้เพื่อนสนิทที่อยู่บนเครือข่ายดังกล่าวได้รับรู้ ถือว่าเป็นเครือข่ายสังคมบนโลกเสมือนจริงที่มีคนนิยมใช้มากเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวการ การอัพเดทสถานะปัจจุบัน และการบอกเล่าเรื่องราวของเราให้เพื่อนสนิทที่อยู่บนเครือข่ายดังกล่าวได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตรูป ข้อความ และลิงค์ต่างๆ เราก็สามารถทำได้ภายในเวลาอันจำกัด คุณสมบัตินี้สามารถตอบสนองความต้องการในด้านการสื่อสารของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
     แต่ภายใต้ความสะดวกสบายในการสื่อสารนี้ น้องๆ ทราบรึเปล่าคะว่าบางครั้งการสื่อสารภายใต้โลกเสมือนจริงบนเครือข่ายออนไลน์อาจจะมีอันตรายซ่อนอยู่ก็ได้ ... โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ DNA ได้นำเสนอ ข้อเตือนใจจากโจน กู๊ดไชลด์ (Joan Godchild บรรณาธิการอาวุโสของ CSO (Chief Security Officer) ออนไลน์ เกี่ยวกับอันตรายที่แฝงตัวอยู่ในพฤติกรรมของผู้ใช้ Facebook ว่า 
     1. ข้อมูลที่อยู่ใน Facebook ของเราอาจกำลังถูกแบ่งปันไปยังบุคคลที่ 3 ได้ ... เนื่องจากหากเราไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเอาไว้ ข้อมูลเช่น บันทึกข้อความ รูปภาพ หรือลิงค์ต่างๆ อาจถูกแบ่งปันไปยังบุคคลแปลกหน้าได้
     2. การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวจะคืนกลับสู่โหมดปกติซึ่งมีความปลอดภัยน้อยหลังจากมีการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ทุกครั้ง ... เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ใช้ Facebook หลายคนยังไม่ทราบ ดังนั้นเพื่อป้องกันบุคคลไม่พึงประสงค์เข้ามาดูข้อมูลใน Facebookของเรา เราควรเช็คระบบการตั้งค่าความปลอดภัยทุกครั้งที่มีการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่
     3. อาจจะมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ ... มัลแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยมีเจตนามุ่งร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะโดยนักพัฒนามัลแวร์อาศัยช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ และช่องทางการสื่อสารต่างๆ มาพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถเจาะเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวได้ โดยผู้ไม่หวังดีอาจนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือก่อความเดือดร้อนได้ 
     4. เพื่อนของเราอาจไม่รู้ว่ากำลังทำให้เราไม่ปลอดภัย ... เนื่องจากเพื่อนในเครือข่ายอาจมีการแบ่งปันข้อมูลของเราไปไว้ที่เครือข่ายของตัวเองซึ่งเป็นข้อมูลที่เราอาจจะไม่อยากเผยแพร่ให้ผู้ที่ไม่รู้จักได้เห็น
     5. ผู้ไม่หวังดีอาจกำลังสร้างประวัติอันเป็นเท็จ ... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมักจะถูกขโมยประวัติ รูปภาพ เพื่อไปใช้แอบอ้างในการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือแอบอ้างเพื่อหวังผลประโยชน์ต่างๆ
     ... เทคโนโลยีก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่ให้ทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ได้ในเวลาเดียวกัน พี่เหมี่ยวว่าทางที่ดีที่สุดคือ เราจะต้องรู้เท่าทัน รู้จักใช้วิจารณญาณและรู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการใช้เทคโนโลยีชนิดต่างๆ เพื่อที่เราจะได้รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ และไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่นด้วยนะคะ
 
"ผลเสียจากการเล่นเฟสบุ๊กมากเกินไป"
 
      1. หลงใหลตัวเองมากขึ้น ... คนมักโพสต์รูปถ่ายกับรถใหม่ บ้านใหม่ ของเล่นชิ้นใหม่ บ้านใหม่ งานใหม่ สถานที่เที่ยวใหม่ๆ กระทั่งอาหารที่กำลังจะทานพวกเขาก็ไม่วายที่จะถ่ายรูปเพื่อเอามาอวดเพื่อนๆ หรืออวดว่ามีจำนวนคนมาขอเป็นเพื่อนมากมาย คนมากดชอบ แสดงความคิดเห็น ก็กลายเป็นการส่งเสริมให้พวกเขาหลงตัวเองมากขึ้นไปอีก 
        
      2. ขี้อิจฉามากขึ้น ... เมื่อมีคนโพสต์เรื่องตนเอง หน้าตาดี ชีวิตดี ฐานะดี ดูดี ดูเท่ คนอีกจำนวนหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่ดีแบบนั้น จึงกลายเป็นคนที่ขี้อิจฉามากขึ้น เพราะในโลกจริง ผู้คนส่วนใหญ่ ก็ยังเป็นคนจน ชนชั้นกลาง หลายๆ คนไม่ได้เป็นคนเก่ง ได้รับสถานะทางสังคมเฉกเช่นดารา คนดัง หรือบุคคลสาธารณะ เพื่อคนธรรมดาเหล่านั้นเข้ามาใช้เฟซบุ๊ก เขาก็เพียงแค่อยากจะรู้สึกเป็นคนเด่น คนดัง คนสำคัญบ้าง จึงต้องสร้างภาพตนเองให้ดูดีในพื้นที่สาธารณะสักเล็กน้อย เพื่อหลอกตัวเองหรือผู้อื่น
       
     3. มองโลกในแง่ร้าย ... เฟซบุ๊คเป็นที่ที่คนชอบโพสต์เรื่องส่วนตัวดีๆ ขณะที่เรื่องส่วนรวมของสังคมมักเป็นเรื่องร้ายๆ ดังนั้นคนที่เสพข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก จึงมักเห็นเรื่องปัญหาสังคมต่างๆ ถูกหยิบขยายความ ตีความ ส่งต่อแพร่หลายกระจายวงกว้าง พวกเขาจึงรู้สึกว่า “โลกช่างโหดร้าย” และมีลักษณะไม่ไว้วางใจผู้คนเรื่องต่างๆ มากขึ้น 
       
     4. ชอบสอดส่องสอดรู้ชีวิตคนอื่นๆ ... การสอดส่อง ติดตาม (stalker) หรือการเข้าไปก้าวล่วงชีวิตของผู้อื่น นั่นแสดงว่าคุณมีปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนัก เพราะคุณเริ่มแยกไม่ออกระหว่าง พื้นที่สาธารณะ และความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น และนั่นอาจทำให้คุณรู้สึก “ย่ามใจและมีอำนาจเหนือชีวิตของผู้อื่น” และก้าวไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ในโลกจริงกับเขาที่คุณชื่นชอบ 
       
     5. เปิดเผยตัวเองมากขึ้น - กันเองมากขึ้น ... ผู้คนในเฟซบุ๊กใช้ถ้อยคำภาษาที่กันเองมากขึ้น พวกเขาไม่รู้สึกแปลกที่จะบอกเล่าเรื่องราวความคิดความรู้สึกของตนเองกับคนแปลกหน้า และนั่นนำมาสู่ การเปิดรับ รู้จักคนแปลกหน้ามากขึ้น และกับดักของอาชญากรในเฟซบุ๊กที่พวกเขามักใช้ คือ ถ้อยคำที่สุภาพ ท่าทางที่ดูคบได้ ไว้ใจได้ และการสร้างความไว้วางใจที่มาจากบทสนทนาที่ดูเป็นกันเอง 
       
     6. จมทุกข์แบกโลกซึมเศร้า ... มีหลายคนที่ไม่มีความสุขในชีวิตจริง พวกเขาจึงแบกโลกที่พวกเขาอยู่มาสถิตไว้ในเฟซบุ๊ก กลายเป็นแหล่งระบายอารมณ์ จมทุกข์ โศกเศร้ามากขึ้น การระบายอารมณ์ หรือแสดงความรู้สึกผิดหวังเสียใจนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คุณอาจพบว่ามีเพื่อนบางคนมักจะอยู่ในอารมณ์เศร้าตลอดเวลา นั่นแสดงว่าเขาไม่สามารถหลุดพ้นก้าวข้ามสภาวะนั้นได้ และจะกลายเป็นคนที่มีภาวะซึมเศร้าแบบออนไลน์ตลอดเวลา และคนอื่นๆ ก็จะพากันเบื่อหน่ายหรือรังเกียจพวกเขา แทนที่จะเข้าใจและช่วยรักษาพวกเขา
       
     7. หลงใหลยึดติดแบบอย่างชีวิตของผู้อื่น ... คนที่หลงใหลในชีวิตผู้อื่นจะสูญเสียความภูมิใจในตนเองมากไปกว่านั้น คือเฝ้ารอเฝ้าคอยที่จะติดต่อติดตามสื่อสารกับผู้อื่น เขาจะไม่สนใจชีวิตของตนเองอีกต่อไป ร้ายกว่านั้นคือ เขาอนุญาตให้ชีวิตคนอื่นเข้ามาควบคุมบงการชีวิตของเขาเอง ร้ายที่สุด คือ สับสนในโลกจริง โลกเสมือน และไปใช้ชีวิตของตนเองในชีวิตเฟซบุ๊คของคนอื่น! 
       
       เฟซบุ๊กนั้น มิใช่เชื้อโรคหรือไวรัส แต่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่บ่มเพาะ ผลิต และเผยแพร่โรคอันเกิดมาจากผู้คนที่มาใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมเสมือนจริง ผู้คนต่างๆ เข้ามาเสพติดมันและเปลี่ยนนิสัยตนเอง หรือย้ำสร้างนิสัยเดิมตนเองให้มีความรุนแรงมากขึ้น 
ที่มา: 
http://www.tamdee.net , บทความ 7 นิสัยอันตรายในเฟซบุ๊ก โดย ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • ใครที่ชอบนอนหลับไปพร้อมกับโทรศัพท์ข้างตัว…อยากให้คุณได้อ่านบทความนี้
  • สหราชอาณาจักร..กับ..โรคเสพติดสื่อสังคมออนไลน์
  • คนแห่เลิกเล่นเฟซบุ๊คหวั่นติดภาวะฆ่าตัวตาย
  • Facebook เตรียมแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อพ่อแม่เผลอโพสต์รูปที่มีลูกน้อยแบบสาธารณะ
  • อันตรายจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก
  • IT กับสุขภาพ
  • facebook
  • ผลเสียจากการเล่นเฟสบุ๊กมากเกินไป
  • มองโลกแง่ร้าย
  • มัลแวร์
  • หลงใหลตัวเอง
  • โรคซึมเศร้า
  • โลกซึมเศร้า
  • Login to post comments
  • อ่าน 7229 ครั้ง
  • ข่าวสาร
  • เรื่องเด่น
  • เลี้ยงลูกถูกวิธี
  • เกร็ดน่ารู้
  • มุมกิจกรรม
  • โพล

เรื่องที่มีคนอ่านมากที่สุด

ทำความรู้จักเด็กยุค Generation Alpha
2 เมษายน 2558
44,920
"สังคมก้มหน้า" ต้นเหตุและทางออก
27 กรกฎาคม 2558
18,922
สาเหตุการติดเกม
5 กรกฎาคม 2556
18,600
ภัยร้ายจากอินเทอร์เน็ต
17 กุมภาพันธ์ 2557
17,345
ปัญหาเด็กติดเกม...ส่งผลกระทบต่อตัวเด็กและครอบครัวอย่างไรกัน ?
5 สิงหาคม 2556
15,217
เกมเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก
31 มีนาคม 2555
14,524
  • หน้าแรก
  • ติดเกมคืออะไร
  • แบบทดสอบ
  • ชวนคิดชวนอ่าน
  • ดาวน์โหลด
  • เว็บบอร์ด
  • เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

รศ.นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล
สาขาวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โทร. 0-2419-4080 / โทรสาร 0-2411-3843

ลิขสิทธิ์

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย

Powered by Drupal. Developed by Opendream.
Site design © 2011 Opendream, All rights reserved.

ติดตามความเคลื่อนไหว

  • RSS Feed
  • Twitter
  • Facebook
  • กระทรวงวัฒนธรรม
  • มหาวิทยาลัยมหิดล
  • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)